
คพรต.
ข้อมูล ณ วันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2564
![]() ที่มาของคณะกรรมการพัฒนาชุมชนในพื้นที่รอบโรงไฟฟ้าตำบล (คพรต.)
คพรต. แต่ละคณะมีจำนวนกรรมการตามที่ คพรฟ. กำหนด ซึ่งต้องไม่น้อยกว่า 7 คน ประกอบด้วย 1. คพรต. ภาคประชาชน มีจำนวนเท่ากับจำนวนหมู่บ้านในตำบลนั้น และมีจำนวนไม่น้อยกว่า 2 ใน 3ของ คพรต. ทั้งหมด 2. คพรต. อื่น ๆ เช่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้แทนสถานศึกษา ผู้แทนองค์กรชุมชน ผู้แทนเครือข่ายชุมชน ผู้แทนสภาเยาวชน ผู้แทนศาสนสถาน ผู้แทนสื่อมวลชน มีจำนวนไม่เกิน 1 ใน 3 ของ คพรต. ทั้งหมด ![]() ตัวอย่างการสรรหา คพรฟ. และ คพรต. ในกองทุนขนาดใหญ่(กรณีตัวอย่าง : กองทุนฯ มีพื้นที่ประกาศ 5 ตำบล และตำบล ก มีหมู่บ้านจำนวน 10 หมู่บ้าน1. คพรฟ. จำนวน 27 คน o คพรฟ. ภาคประชาชน จำนวน 18 คน จาก ตำบล ก = 5 คน ตำบล ข = 4 คน ตำบล ค = 4 คน ตำบล ง = 3 คน ตำบล จ = 2 คน o คพรฟ. ภาครัฐ จำนวน 8 คน จาก ผู้ว่าราชการจังหวัดคัดเลือก 6 ด้าน ด้านละ 1 คน และอื่น ๆ 2 คน o คพรฟ. ผู้ทรงคุณวุฒิ จำนวน 1 คน 2. คพรต. ตำบล ก จำนวน 15 คน o คพรต. ภาคประชาชน จำนวน 10 คน จาก ผู้แทนหมู่บ้าน = 5 คน (จากผู้แทนหมู่บ้านของหมู่บ้านที่ไม่ได้รับการคัดเลือกเป็น คพรฟ. ภาคประชาชน) ลำดับที่ 2 ของผู้แทนหมู่บ้าน = 5 คน (จากหมู่บ้านที่ผู้แทนหมู่บ้านได้รับการคัดเลือกเป็น คพรฟ. ภาคประชาชน) o คพรต. อื่น ๆ จำนวน 5 คน ![]() อำนาจหน้าที่ของ คพรต. 1. สำรวจความต้องการของประชาชนในพื้นที่ และสำรวจผลกระทบจากการดำเนินงานของโรงไฟฟ้า เพื่อใช้ประกอบการจัดทำโครงการชุมชน 2. ส่งเสริม สนับสนุนการจัดทำโครงการชุมชนเพื่อเสนอขอใช้เงินกองทุน โดยการจัดทำเวทีประชาคมตำบลหรือหมู่บ้าน 3. จัดประชุม คพรต. อย่างน้อย 6 เดือนครั้ง เพื่อพิจารณากลั่นกรองโครงการชุมชน ติดตามและประเมินผลการดำเนินงานโครงการชุมชนที่ได้รับการสนับสนุนจากกองทุน และรายงานผลการดำเนินงานให้ คพรฟ. ทราบ 4. ส่งเสริมการให้ความรู้ในเรื่องเกี่ยวข้องกับกองทุนพัฒนาไฟฟ้าแก่ประชาชนในพื้นที่ประกาศ รวมทั้งประชาสัมพันธ์ เผยแพร่ข้อมูลกองทุนและผลการดำเนินงานแก่สื่อมวลชน ประชาชน และองค์กรต่าง ๆ ในพื้นที่ประกาศ 5. รับเรื่องร้องเรียน พิจารณาแก้ไขปัญหาเบื้องต้น และรายงาน คพรฟ. 6. ดำเนินงานอื่นใด ตามที่ คพรฟ. มอบหมาย เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ของการบริหารเงินกองทุนพัฒนาไฟฟ้าในพื้นที่ประกาศ คุณสมบัติ คพรต. ภาคประชาชน1. มีสัญชาติไทย2. มีอายุไม่ต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์ และไม่เกิน 70 ปีบริบูรณ์ ทั้งนี้ ในวันรับสมัครต้องมีอายุไม่เกิน 65 ปีบริบูรณ์ 3. มีพื้นความรู้ไม่ต่ำกว่าการศึกษาภาคบังคับ หรือที่กระทรวงศึกษาธิการเทียบไม่ต่ำกว่าการศึกษาภาคบังคับ 4. มีชื่อในทะเบียนบ้านที่อยู่ในพื้นที่ประกาศติดต่อกันไม่น้อยกว่า 1 ปี นับถึงวันที่ดำเนินการสรรหา 5. ไม่เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร หรือผู้ช่วยผู้ดำเนินงานของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสมาชิกวุฒิสภา เจ้าหน้าที่ของรัฐ ซึ่งมีตำแหน่งหรือเงินเดือนประจำ ข้าราชการการเมืองหรือผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง สมาชิกสภาท้องถิ่น ผู้บริหารท้องถิ่น กรรมการที่ปรึกษาพรรคการเมือง 6. ไม่เป็นบุคคลวิกลจริตหรือจิตฟั่นเฟือนไม่สมประกอบ 7. ไม่ติดยาเสพติดให้โทษ 8. ไม่เป็นบุคคลล้มละลายหรือไม่เคยเป็นบุคคลล้มละลายทุจริต 9. ไม่เป็นคนไร้ความสามารถหรือคนเสมือนไร้ความสามารถ 10. ไม่เป็นผู้ต้องคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุกและถูกคุมขังอยู่โดยหมายศาล 11. ไม่เคยเป็นบุคคลที่ต้องคำพิพากษาให้จำคุกตั้งแต่สองปีขึ้นไป โดยได้พ้นโทษมายังไม่ถึงห้าปีในวันดำเนินการสรรหา เว้นแต่ความผิดอันได้กระทำโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ 12. ไม่เคยถูกไล่ออก ปลดออก หรือให้ออกจากราชการ หน่วยงานของรัฐ เพราะทุจริตต่อหน้าที่ หรือประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง หรือถือว่ากระทำการทุจริตและประพฤติมิชอบในวงราชการ 13. ไม่เป็นผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในนิติกรรมสัญญาที่ทำกับกองทุนพัฒนาไฟฟ้า คุณสมบัติของ คพรต. อื่น ๆ 1. มีสัญชาติไทย 2. มีอายุไม่ต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์ ยกเว้นผู้แทนกลุ่ม หรือสภาเยาวชนต้องมีอายุไม่ต่ำกว่า 18 ปีบริบูรณ์ และไม่เกิน 70 ปีบริบูรณ์ ทั้งนี้ ในวันรับสมัครต้องมีอายุไม่เกิน 65 ปีบริบูรณ์ 3. มีความรู้ ความสามารถ เพื่อการพัฒนาชุมชนในพื้นที่รอบโรงไฟฟ้า 4. มีชื่อในทะเบียนบ้านที่อยู่ในพื้นที่ประกาศติดต่อกันไม่น้อยกว่า 1 ปี นับถึงวันที่สมัครสรรหา 5. ไม่เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภา ข้าราชการการเมือง 6. ไม่เป็นผู้ดำรงตำแหน่งใด ๆ ในพรรคการเมือง 7. ไม่เป็นบุคคลวิกลจริตหรือจิตฟั่นเฟือนไม่สมประกอบ 8. ไม่ติดยาเสพติดให้โทษ 9. ไม่เป็นบุคคลล้มละลายหรือไม่เคยเป็นบุคคลล้มละลายทุจริต 10. ไม่เป็นคนไร้ความสามารถหรือคนเสมือนไร้ความสามารถ 11. ไม่เป็นผู้ต้องคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุกและถูกคุมขังอยู่โดยหมายศาล 12. ไม่เคยเป็นบุคคลที่ต้องคำพิพากษาให้จำคุกตั้งแต่สองปีขึ้นไป โดยได้พ้นโทษมายังไม่ถึงห้าปีในวันได้รับการคัดเลือก เว้นแต่ความผิดอันได้กระทำโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ 13. ไม่เคยถูกไล่ออก ปลดออก หรือให้ออกจากราชการ หน่วยงานของรัฐ เพราะทุจริตต่อหน้าที่ หรือประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง หรือถือว่ากระทำการทุจริตและประพฤติมิชอบในวงราชการ 14. ไม่เป็นผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในนิติกรรมสัญญาที่ทำกับกองทุนพัฒนาไฟฟ้า การดำรงตำแหน่งของ คพรต.
กรรมการ คพรต. มีวาระในการดำรงตำแหน่งคราวละสองปี นับตั้งแต่วันที่ได้รับการแต่งตั้ง โดยดำรงตำแหน่งได้ไม่เกินสองวาระติดต่อกัน กรรมการ คพรต. ที่พ้นจากตำแหน่งตามวาระ ให้อยู่ในตำแหน่งเพื่อปฏิบัติหน้าที่ต่อไปจนกว่าจะได้มีการแต่งตั้งกรรมการ คพรต. ขึ้นใหม่ เพื่อให้มี กรรมการ คพรต. ปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างต่อเนื่อง ให้ดำเนินการสรรหากรรมการ คพรต. ขึ้นใหม่ เป็นการล่วงหน้าก่อนที่กรรมการ คพรต. ครบวาระตามสมควร กรณีที่กรรมการ คพรต. พ้นจากตำแหน่งก่อนครบวาระให้ดำเนินการสรรหาและแต่งตั้งกรรมการ คพรต. ในภาคส่วนเดียวกันของกรรมการที่พ้นจากตำแหน่งแทนภายในสี่สิบห้าวันนับตั้งแต่วันที่ตำแหน่งนั้นว่างลง และให้ผู้ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งแทน อยู่ในตำแหน่งเท่ากับวาระที่เหลืออยู่ของกรรมการ คพรต. ซึ่งตนแทน กรณีที่วาระของกรรมการ คพรต. เหลืออยู่น้อยกว่าเก้าสิบวัน จะไม่ดำเนินการสรรหาและแต่งตั้งกรรมการ คพรต. แทนตำแหน่งที่ว่างลงก็ได้ และในการนี้ ให้ คพรต. ประกอบด้วยกรรมการ คพรต. เท่าที่เหลืออยู่ การพ้นจากตำแหน่งของ คพรต. 1. ตาย 2. ลาออก 3. ย้ายชื่อออกจากทะเบียนบ้านในพื้นที่ประกาศเกิน 90 วัน 4. ขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ามของการเป็นกรรมการ คพรต. 5. ขาดการประชุม 3 ครั้งติดต่อกันโดยไม่มีเหตุผลอันสมควร 6. ประธาน คพรฟ. มีคำสั่งให้พ้นจากตำแหน่งตามมติ คพรต. ไม่น้อยกว่าสองในสามของ คพรต. ที่เสนอให้พ้นจากตำแหน่งเพราะมีความประพฤติเสื่อมเสีย บกพร่อง ไม่สุจริตต่อหน้าที่หรือหย่อนความสามารถ 7. ประธาน คพรฟ. มีคำสั่งให้พ้นจากตำแหน่งเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงประเภทการบริหารงานกองทุน |
